นักวิชาการสาธารณสุขต้องswotได้

สำหรับงานของนักวิชาการสาธารณสุขวันนี้นะครับ ผมได้รับการว่าจ้างให้ทำแผนยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุข ซึ่งก็ต้องทำการswotครับ

swot analysis เราเหล่านักวิชาการสาธารณสุข จะเรียกสั้นๆๆว่าswotครับ ซึ่งมันเป็นคำย่อของคำว่า Strength,Weakness,Opportunities,Threats เพื่อนนักสาธารณสุขของผม มันบอกว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดในการในการทำความเข้าใจองค์กรและการตัดสินในเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆโดยเฉพาะปัญหาด้านสาธารณสุข ซุ่งเป็นปัญหาที่เหล่าจอมยุทธ(นักวิชาการสาธารณสุข)ต้องเจอแน่ๆๆ

นักวิชาการสาธารณสุขหลายๆท่านได้บอกผมว่าการ swot analysis นั้นสามารถทำได้ง่าย และจะให้ดีควรเป็นรูปแบบของ workshop และการระดมสมอง

และประโยชน์ของswotมีมากมายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ นักวิชาการสาธารณสุข ชอบใช้คำนี้กันครับ การประเมินผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุข

เอาละครับสำหรับเรื่องราวของนักวิชาการสาธารณสุขบ้านๆๆก็ขอพักไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ ขอบคุณและสวัสดีครับ

Born to นักวิชาการสาธารณสุข

เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนผมและเพื่อนที่เป็นนักวิชาการสาธารณสุขได้ไปกินอาหารญี่ปุ่นกันที่ร้านฟูจิครับ ระหว่างที่ผมรอไอ้เจ้าเพื่อนนักวิชาการสาธารณสุขตัวดีของผม ผมก็เดินดูโน่น นี้ นั้น เป็นชั่วโมงๆๆมันก็ไม่มาสักที พอโทรตามมันก็บอกจะถึงๆๆ สมัยผมเรียนอยู่คณะสาธารณสุข รุ่นพี่ผมที่เรียนคณะสาธารณสุข ก็พร่ำๆก็สอนว่าให้ตรงต่อเวลา ผมและไอ้เจ้าเพื่อนนักวิชาการสาธารณสุข ก้พร่ำก็สอนรุ่นน้องต่อ แต่มันกลับทำไม่ได้ชะเองนี้ อิอิ

เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงกว่าๆๆเดินจนทั่วห้างแล้วเพื่อนผมก็ยังมาไม่ถึง ผมจึงจับโทรศัพท์อันโทรมเก่าแต่ไม่แก่ของผม ซึ่งหลายๆๆคนบอกว่าไม่สมฐานะนักวิชาการสาธารณสุขเลยว่างั้น ผมโทรบอกมันว่าจะไปรอที่ร้านซีเอ็ดครับ ไอ้เพื่อนผมเนี๊ยมันก็ตอบคำถามเดิมๆๆว่า ใกล้ถึงแล้วๆๆๆ แต่ผมไม่สนใจครับ ผมจะรอที่ซีเอ็ด

ผมเดินดูหนังสือประมาณ 45 นาทีครับ ไอ้คำว่าใกล้ถึงของนักวิชาการสาธารณสุข มันใกล้แค่ไหนผมละสงสัยจริงๆๆ ผมโทรไปอีก คำตอบก็คำตอบเดิมๆๆครับ ใกล้ถึงละๆๆ ผมเดินดูหนังสือภาษาอังกฤษเผื่อผมจะได้ไปสอบเรียนโทด้านบริหารสาธารณสุขบ้าง ได้หนังสือมา 1 เล่ม แต่ยังไม่ได้อ่านเลย ฮ่าๆๆ







เดินวนไปวนมาให้ร้านหนังสือตั้งนานสองนาน LOOKS and LOOKS ไปเจอหนังสือเล่ม 1 ชื่อว่า Born to หมออนามัย เข้าใจว่าคำว่าหมออนามัย จะหมายถึง นักวิชาการสาธารณสุข ที่ทำงานที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขตำบล


นั้นก็เป็นสาเหตุ หนึ่งที่ผมจะเขียนบล็อกนี้เพื่อบันทึกการทำงานผมในด้านสาธารณสุข และเกร็ดชีวิตเล็กๆๆน้อย เผื่อผู้ที่สนใจอยากทำงานด้านสาธารณสุขได้เข้ามาอ่าน ซึ่งคิดว่าจะให้แง่คิดได้ดีและแตกต่างจากหนังสือที่ว่าแน่นอนครับ

ชาร์จแบต

เมื่อวานก่อนตั้งใจไปชาร์จแบต ไปมองหาช่องทางธุรกิจใหม่ๆในเมืองหลวง ก็ได้แรงกระตุ้นในการทำงานมากขึ้น ผมชอบนั่งมองคนที่เมืองหลวง พวกเขามุ่งมั่นทุ่มเท

และอีกความตั้งใจจะไปชิมโออิชิเอ็กเพลสหน่อย พอไปถึงกลับไม่กลับกินครับ แพงเกิน กินไม่ลง ไปกินปลาชาบะแทนอร่อยดีเหมือนกันนะครับ ชาบะราดซีอิ้วต้องหัดทำกินบ้างละ

และ และ ได้ดูหนัง 3Dด้วย อยากดูTF3 3D แต่ก็นะราครา 260 บาท ไม่ค่อยกล้าดูอีกแหละ

ภาษาอังกฤษเป็นไรที่จำเป็นมากเลยอ่ะในตอนนี้ จากเมื่อก่อนคิดว่า อ่านตำราไทยก็เพียงพอ ตอนนี้คิดว่าไม่พอแหละ หัดอ่านจากเจ้าสำนักเลยจะดีกว่าไหม ต้องเริ่มหัดอ่านใหม่ละ ไปซื้อหนังสือมาแล้วละ

ถ้าอยากรวยต้องอ่านหนังสือภาษาอังกฤษออก ไม่ชิ ถ้าอยากเก่งต้องอ่านหนังสือภาษาอังกฤษออก

ผมอ่านหนังสือ สำเร็จก่อนใคร เขาแนะนำให้ทำในสิ่งที่รัก แล้วเราจะไม่ต้องทำงาน อย่าฝืนทำในสิ่งที่เราเบื่อ อิอิ ทุกวันนี้ผมเลยไม่ฝืน นั่งเล่นแต่FBทุกวัน

ไปกินMKกับเพื่อนมา 3 คน หมดไปคนละ 280 บาท ไม่ค่อยอร่อยเลยแต่ก็ดี ได้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อน แล้วเจอกับผมใหม่นะเพื่อนๆในเวอร์ชั่น เสี่ยต้น

ปล.ขอให้เพื่อนไปสู่สุขคตินะครับ รักและระลึกถึงเพื่อนเสมอครับ

SWOT และ การติดADS

เมื่อคืนได้อ่านหนังสือการทำswotอ่านไป อ่านมา มึนเลยครับ ทำไงถึงจะนำมันมาใช้ได้ก็ไม่รู้ คิดแล้วท้อแต่คงถอยไม่ได้ละครับ งานนี้เพราะโดนคำสั่งจากหน่วยเหนือ

swot เป็นเครื่องมือขนาดเล็กๆใช้งานง่าย เขาว่างั้น นั้นแหละครับ ตรงเลยครับกับภาษิต "มักง่ายได่ยาก" เพราะความง่ายมันมีความยากอยู่ในตัวครับ

swot เป็นเครื่องในกาวิเคราะห์สภาพองค์กรเราครับ ว่าปัจจุบันเราเป็นยังไง มีอะไรที่ดีอยู่แล้ว เราน่าจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้อีก เรามีอะไรที่ไม่ดี เรื่องสถานการณ์ไหนที่ทำให้เราเดือดร้อน ลำบากกว่าเดิม

swot ถ้าแบ่งเป็นหลักใหญ่ๆๆก็มีการวิเคราะห์ภายใน กับ ภายนอกครับ ในองค์กร กับนอกองค์กร

ทั้งหมดเขียนจากความจำนะครับอย่าเชื่อมาก ฮี่ ฮี่

วันนี้จะลองติดตั้งADS หรือ Advertising หรือ google adsense อะไรทำนองนี้แหละครับ ว่ากันว่าทำเงินได้เยอะน่าดู ผมก็ทำๆๆดูเผื่อมีเงินซื้อกล้องมาถ่ายรูปเล่นๆๆ

แต่จุดประสงค์หลักของบล็อกนี้ ก็เอาเขียนบันทึกผมละครับ จะเรียกว่าเอามาระบายอารมณืผมก็ว่าได้ เผื่อมันเป็นประโยขน์กับชนรุ่นหลัง เพราะ ไม่ว่า "ผมจะประสบผลสำเร็จในชีวิตหรือล้มเหลวในชีวิต แต่ผมจะได้ประสบการณ์และคุณก็ได้ด้วยหากอ่านบล็อกผม"

ตอนนี้เอาเวลางานมาใช้เขียนบล็อก พอแค่นี้ก่อนละกันครับ

ปรับแต่งBLOG

วันนี้ปรับแต่งBLOGนิดหน่อย คงจะเห็นความแตกต่างบ้างเล็กน้อย แอบเหนื่อย เพระที่จริงตั้งใจจะปรับให้มันเป็นแบบread more ทำได้แต่มันไม่ย่อเนื้อหาให้เหนือย แท้ๆๆๆ


วันนี้ไม่รู้จะเขียนไร ตั้งใจจะไปอ่านหนังสือการทำSWOTแต่ไม่รู้จะหาเจอไหม พ่อผมบอกว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ลำบากมาก ทำงานมากกว่านี้หลายเท่า (ขนาดทุกวันนี้ยังทำหนักขนาด) ผมอ่ะไม่เคยเจองานหนักเลย เพราะเจอเมื่อไหร่ก็ถอย ฮ่าๆๆ

เอาเพลงมาฝากแล้วกันครับ

แรงปรารถนา!

จากตอนที่แล้วผมทิ้งท้ายว่าจะอ่านหนังสือ หัวใจไม่มีข้อแม้ ตอนนี้เปลี่ยนใจละครับ เพราะ 1.เงินในกระเป๋าเหลือน้อย 2.ผมว่าผมอ่านมาเยอะละ เหลือแต่การปฏิบัติ ผมนั่งคิดๆๆๆๆๆนอนคิดๆๆๆๆๆทำไมผมไม่ประสบผลสำเร็จ ทั้งที่ผมมีเป้าหมาย มีความมุ่งมั่น ผมรู้ละว่าผมขาดอะไร ผมขาดแรงปรารถนา

แรงปรารถนาที่แรงกล้า แรงมากจนเราไม่สามารถละทิ้งความมุ่งมั่น ละทิ้งสมาธิจากมันได้ เช่น หากผมเล่นการพนัน ผมเดิมพันไว้สูง ผมจะมีสมาธิกับสิ่งนั้นมาก นั้นทำให้เซียนหมากฮอสที่เล่นเดิมพันจะพัฒนาเร็วกว่าคนที่ไม่ได้เล่นเดิมพัน หรือการที่ผู้หญิงหลงรักชายหนุ่มรูปงาม แล้วทำทุกวิถีทางที่จะสวยเพื่อชายคนนั้น หรือจากวลีเด็ด ขอบคุณความจนที่ทำให้ผมมีวันนี้ คนจนต้องการหนีความจนเลยขยัน ผมเคยมีแรงปรารถนา เฉพาะตอนเล่นการพนัน

แล้วผมจะสร้างแรงปรานาที่แรงกล้าได้อย่างไร สมัยก่อนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใช้กลยุทธในการสู้ศึก กอบกู้เอกราช โดยให้ทหารทุบหม้อข้าวหม้อแกง เพื่อเพิ่มแรงปราถนาให้ทหารต้องการชนะ เพราะไม่มีทางรอดหากไม่ชนะ หนีก็ไม่ได้ พักก็ไม่ได้ "ต้อง ลับตาลุย"

เจอมาอีกเรื่องการระงับอารมณ์โกรธ กับ ความมุ่งมั่น มันสัมพันธ์กันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะผมโกธรง่ายและพร้อมจะระเบิดทุกเวลา เสียเพื่อนไปหลายคนแล้ว หมายถึง เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อนจริงๆๆ

สูตรความสำเร็จถึงรู้แต่ก็ไม่สำเร็จ

ผมได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน เรื่องของการทำอย่างไรให้สำเร็จ เยอะแยะมากมาย แต่ละคน แต่ละเล่ม ก็พูด ก็เขียนในลักษณะเดียวกัน จนสามารถสรุปได้ว่ามันเป็นสูตรสำเร็จจริงๆๆ

เพราะไม่ว่าเล่มไหน ก็เนื้อหาเดียวกันแต่คนละสำนวนเท่านั้น ผมยังตั้งใจว่าจะไม่ซื้ออีกแล้ว เพราะผมคิดว่า มันคงเป็นสูตรเดียวกัน แต่เอามารีวิวโดยนักเขียนคนใหม่ แต่ใส่ชื่อคนที่ทำอะไรสักอย่างสำเร็จ

สูตรมันมีอยู่ว่า ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน มุ่งมั่นทำมันให้สำเร็จ แค่นั้นแหละครับ ผมคิดว่าแค่นั้น เป้าหมายตั้งไม่ยาก แต่ มุ่งมั่นทำให้มันสำเร็จมันยากนะครับ.

จนได้มาเจอ “ไคล์ เมย์นาร์ด” บอกเล่าประสบการณ์ต่อสู้แบบไม่มีข้ออ้าง เผยเคล็ดลับน็อกคู่ต่อสู้ด้วยความพยายาม

ไคล์ เมย์นาร์ด ได้ออกหนังสือชื่อ No Excuses หรือ หัวใจ ไม่มีข้ออ้าง เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ที่แม้ไร้แขนขาตั้งแต่เกิดก็สามารถประสบความสำเร็จเป็นแชมป์มวยปล้ำและแชมป์ในชีวิตจริงได้



ไคล์ เมย์นาร์ด กล่าวถึง เคล็ดลับที่ใช้น็อกคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายปกติว่าสิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดคือความพยายามยกระดับความสามารถของตัวเองให้สูงที่สุด แม้คู่แข่งจะยิ่งเหนือระดับกว่าแต่เมื่อคู่แข่งเริ่มอ่อนล้าความพยายามสู้ของเราก็จะเอาชนะได้ นอกจากนี้ตนยังเป็นคนที่ไม่มองโลกแบบมีข้อแม้ หรือท้อแท้กับชะตาชีวิต คิดเพียงว่าหากไม่ต้องการเป็นเหยื่อของโลกก็จงก้าวข้ามสิ่งนี้ไป ตนมีความฝันอยู่ตลอดและพยายามให้เป็นจริงในทุก ๆ ความฝัน แม้แต่ละความฝันจะต้องใช้เวลามากแต่เมื่อพยายามแล้วต้องสำเร็จสักวัน ดังนั้น ไม่อยากให้คนที่พิการใช้ข้ออ้างเพื่อยอมแพ้กับชีวิต
เล่มนี้ผมต้องอ่านครับ

ความมุ่งมั่นกับภาวะผุ้นำ

ก่อนอื่นขอพูดเรื่องภาวะผุ้นำ ผมเคยอ่านในหนังสือแปลเล่มหนึ่ง และในสามก๊กเองก็บอกไว้ประมาณ 10 กว่าข้อ ผมจำไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ แต่แน่ๆๆต้องมีความมุ่งมั่น และต้องกล้าตัดสินใจและรับผิดชอบ จบประเด็นนี้เพียงแค่นี้

วันก่อนๆๆได้เข้าประชุม ท่านประธานให้กลยุทธ หรือนโยบาย หรือเรียกว่าอะไรผมไม่แน่ใจ "หลับตาลุย"มันเหมาะกับผมตอนนี้มาก ผมไม่มีทางหนี และไม่มีทางสู้ได้ สิ่งเดียวที่ทำได คือ "หลับตาลุย" จบประเด็นที่สอง

เวลาที่ผมได้ยินเรื่อง การวางแผน,แผนยุทธศาสตร์,แผนที่ทางความคิด ผมชอบคำเล่านี้ มันดุเหมือนว่ามันจะทำให้ผมประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย แต่ผมก็ไม่เคยทำสำเร็จ มันคงเป็นเพราะผมขาดความุ่งมั่น

ดังนั้น ผมจึงวางแผนใหม่ครับ ทุกครั้งผมไม่รู้ว่าผมวางแผนเพื่อสู้กับอะไร แต่ครั้งนี้ผมรู้ครับ ผมวางแผนสู้กับความมุ่งมั่น ผมนั่งอ่านหนังสือเป็นเวลา 30 นาที โดยไม่ลุกไปไหน แม้มันจะล้มเหลวแต่มันก็ใกล้ความสำเร็จยิ่งขึ้น เพราะผมกำหนดไว้ 50 นาที แต่อ่านได้ 30 นาทีก็หลับไป มันตั้งเป้าไว้ว่าจะอ่านหนังสือโดยไม่ลุกไปไหน 50 นาที และจะไม่คิดเรื่องอื่นเลย

ผลของมันก้อย่างที่บอก อ่านได้ 30 นาที หลับครับไม่ไหว เรื่องความคิดห้ามอยากมีวอกแวกบ้าง แต่อย่างว่าแหละครับ ครั้งที่ 1 เจ็บปวดรวดร้าว ครั้งที่ 2 เจ็บทุกข์ระทมภายในใจ ครั้งที่ 3 แสนสุกเบิกบานอารมณ์ จบประเด็นเรื่องความมุ่งมั่นครับ

เมื่อวานไปดู x-men first class สนุกดีครับ ผมชอบมาก มันเป็นเรื่องที่บอกที่ไปที่มาของ โปสเฟสเซอร์เอ็กซ์ กับ แม็คนีโต ที่ไม่ลงรอยกันในแนวคิด โดยก่อนหน้านี้สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกัน แต่อุดมการณ์ต่างกัน จึงต้องแยกทาง

ผมชอบทั้ง โปสเฟสเซอร์เอ็กซ์ และ แม็คนีโต ทั้งสองคนมีความมุ่งมั่นเหมือนกันครับ

เคมีอาจารย์ อุ๊

วันนี้แอบเปิดดูเคมีอาจารย์ อุ๊ ของETV โหลดมาจากยูทูบ อาจารย์บอกว่า ก่อนอื่นต้องเรียนเลขออกซิเดชันก่อน เพื่อ

เป็นพื้นฐานของการไปเรียนไฟฟ้าเคมี

เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจเลย ได้ฟังอาจารย์อธิบายก็เข้าใจมากขึ้นเยอะ เด็กบ้านนอกก็มีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีติวเตอร์นี้แหละมั่ง

เนื้อหามีอยู่ว่า

1.ต้องจำตารางธาตุให้ได้

2.หมู่ 1 +1 หมู่2+2 หมู่3+3 หมู่ 7 -1 หมู่ 6 -2 หมู่ 5 -3 แต่ที่แน่ๆหมู่1-3

3.F ตัวนี้ ต้อง -1 อย่างเดียวเท่านั้น

4.จะมีอนุมูลกลุ่มที่ต้องจำให้ได้ แต่ผมจดไม่ทันคราวหน้าจะมาอัพเพื่อเติม

** ธาตุที่มีค่า EN สูงจะมีประจุ - เรียงตามนี้ F ,O,Cl,N,Br

เริ่มต้นอีกครั้ง...กับบล็อกเก้อ

สวัสดีครับ ทุกท่าน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ ผมชื่อต้นครับ หลังจากห่างหายไป 1 ปี เต็มอีกแล้ว

เวลามันผ่านไปไวมากหากไม่ทบทวนเรื่องราวในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ ชีวิตจะอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน มันเป็นเหตุและผลที่ต้องบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ที่นี้

1 ปีผ่านไป อ้วนขึ้น ภาษาอังกฤษเท่าเดิม เงินเก็บไม่มี เรียนกฏหมายก็ไม่จบ รถไม่มีขับ ปิ๊กอัพไม่มีขี่ งานยังเดิมๆๆๆ

จะสอบอีก 4 เดือนยังเตรียมตัวเลย เซ็ง สุดๆๆข้อนี้

แล้วจะทำไงดีละโม้ไว้เยอะว่าจะสอบได้

สาเหตุทั้งหมดเกิดจากการขาดความมุ่งมั่นและสมาธิ ต้องตั้งกฏ "จะไม่สนใจสิ่งอื่นนอกจากสิ่งนี้จนกว่าจะทำเสร็จ"