ขับเคลื่อนโดย Blogger.

บทบาทนักวิชาการสาธารณสุข รพส.ต.ที่ต้องทบทวน


 เนื่องจากช่วงนี้ผมเขียนขอย้ายฝ่ายจากแผนงานและสารสนเทศไปปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายเวชปฏิบัติครอบครัว สาเหตุเนื่องจากต้องการปฏิบัติงานให้ตรงกับสายงาน บังเอิญได้อ่านบทความชื่อว่า นวก.สอ.กับบทบาทที่ต้องทบทวน (มุมมองจากหมออนามัย) จึงขอนำบทความดีๆมาลงไว้ที่นี้เลยครับ

รายงานพิเศษ ปีที่ 11 ฉบับที่ 3 

ตอน นวก.สอ.กับบทบาทที่ต้องทบทวน (มุมมองจากหมออนามัย)

ศิลา  วรบรรพต  

 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา  มีการประกาศผลสอบ(สัมภาษณ์)นักวิชาการสาธารณสุข  คงมีหมออนามัยหลายคนที่ดีใจและเสียใจกับผลที่ออกมา ในการสอบครั้งนี้มีผู้มาสมัครทั้งหมด 3,483 คน (ผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้) มาสอบข้อเขียน 3,293 คน สอบผ่านข้อเขียน 1,452 คน (ร้อยละ 44 ) และมาสอบสัมภาษณ์ 1,436 คน และนี่คือยอดที่ขึ้นบัญชีไว้ทั้งหมด เป็นเวลา 2 ปี  ช่วงนี้คงเป็นเรื่องกระบวนการปรับเปลี่ยนสายงาน  คนที่ทำงานอยู่สถานีอนามัย(สอ.)อยู่แล้วคงไม่มีปัญหาปรับเปลี่ยนสายงาน และคงจะทำให้จะมีนักวิชาการในสอ.ครอบคลุมมากขึ้น     

                นักวิชาการสาธารณสุขเป็นอีกหนทางหนึ่ง ที่จะทำให้ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างน้อยที่สุดก็สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งระดับ 7 ได้อย่างแน่นอน (หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอนาคต) แล้ววันนี้มีคำถามว่า นักวิชาการได้ทำหน้าที่ของนักวิชาการแล้วหรือยัง ?  สอ.ที่มีและไม่มีนักวิชาการแตกต่างกันหรือไม่ ? สอ.มีความจำเป็นต้องมีนักวิชาการหรือเปล่า ? คำถามเหล่านี้คงมีอยู่ในใจหมออนามัยทุกคน
                เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา  ได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังผลงานวิจัยเชิงคุณภาพเรื่องหนึ่ง เป็นการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานีอนามัยแห่งหนึ่ง     ที่น่าสนใจคือ  ประชาชนในเขตสอ.นั้นมองสอ.เป็นเพียงร้านชำธรรมดาๆ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า  ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?  ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับสอ. จึงเป็นแค่ ผู้ซื้อกับร้านชำ(ผู้ขาย)” ที่ขายยาเท่านั้นหรือ  และสอ.แห่งอื่นๆ เป็นเช่นนั้นหรือเปล่า หมออนามัยรู้เช่นนี้รู้สึกอย่างไร  

นักวิชาการคือใคร
                เราลองหลับตาแล้วนึกถึงภาพของคำว่า นักวิชาการ  ทั่วไป (ไม่ได้เฉพาะเจาะว่าต้องเป็นนักวิชาการสาธารณสุขนะ) เราจะให้ความหมาย  ให้คุณค่ากลุ่มคนเหล่านี้อย่างไร   มุมหนึ่งอาจจะมองว่า  นักวิชาการคือผู้ที่มีความคิดความอ่านสูง  โดยเฉพาะในเรื่องที่นักวิชาการท่านนั้นให้ความสนใจเป็นพิเศษ  เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในศาสตร์นั้น  มีความรอบรู้ รอบครอบ และความละเอียดลึกซึ้งในเรื่องที่ท่านรู้  หรืออีกแง่มุมหนึ่งอาจมองว่า  นักวิชาการคือผู้ที่รู้แต่เชิงทฤษฎี แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องในด้านปฏิบัติ  อีกทั้งพูดและเขียนอะไรก็ยากต่อการเข้าใจ ทำเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก  โดยนัยแล้วก็คือไม่ค่อยรู้อะไรจริง  อย่างดีก็รู้แค่ที่มีอยู่ในตำรา หรือบางคนอาจมองว่า  นักวิชาการคือเจ้าหน้าที่ที่มีภารกิจในสายงานวิชาการซึ่งตามหน่วยงานต่างๆ ก็มักนิยมมีกันเพื่อให้ทันสมัยตามกระแสโลกของการบริหารองค์กร  ซึ่งโดยเฉพาะในหน่วยงานราชการส่วนใหญ่แล้วก็เป็นข้าราชการที่ไม่ค่อยมีความรู้ทางวิชาการในภารกิจที่หน่วยงานตัวเองรับผิดชอบมากนัก และก็มักทำงานปฏิบัติการไม่เป็น ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่พบเจอนักวิชาการแต่ละท่าน แต่ละสาขาวิชา และแต่ละหน่วยงานกันไป

นักวิชาการสาธารณสุข คือใคร

                ผลจากแผน 7 และโครงการทสอ. ทำให้มีการกำหนดกรอบอัตรากำลัง 3 ปี รอบที่ 3 (2538-2540) ได้รับความเห็นชอบจาก ก.. ให้สอ.มีตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 3-5 / 6. / 7 . จำนวน 1 ตำแหน่ง  ในการกำหนดตำแหน่งนักวิชาการในส่วนราชการนั้นๆ  ..มีวัตถุประสงค์หลัก  2  ประการคือ 
                1.เพื่อให้การบริหารราชการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  เนื่องจากส่วนราชการจะสามารถสรรหาผู้มีความรู้  ความสามารถและความชำนาญอย่างสูงเฉพาะบุคคลในด้านต่างๆ มาทำหน้าที่ศึกษา  ค้นคว้า  วิเคราะห์  วิจัย  เพื่อค้นหาปัญหา สาเหตุของปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไขที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ  ตลอดจนการให้บริการหรือปฏิบัติงานบางอย่าง
                2.เพื่อให้ผู้มีความรู้  ความสามารถและความชำนาญงานอย่างสูงเฉพาะตัว  ได้มีโอกาสก้าวหน้าในตำแหน่งระดับสูงกว่าเดิม  ทัดเทียมกับตำแหน่งหัวหน้าหรือรองหัวหน้าหน่วยงาน  เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้มีความรู้ความสามารถ  ได้อยู่ปฏิบัติงานในภาคราชการมากยิ่งขึ้น
                ด้วยเหตุผลที่ว่า  สภาพปัญหาแต่ละแห่ง  แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน  การจะใช้วิธีเดียวกัน  แบบแผนเดียวกัน  นโยบายเดียวกัน  แก้ปัญหาในทุกพื้นที่ย่อมเป็นไปไม่ได้  เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักวิชาการในสถานีอนามัยจะต้องค้นคว้าสภาพปัญหา  ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งถึงปัญหานั้น  และหาแนวทางแก้ไขปัญหานั้นๆ และหากไม่สำเร็จก็จะต้องหาสาเหตุและแก้ไขจุดบกพร่องต่อไป  เมื่อแก้ไขปัญหาได้แล้วก็ควรที่จะนำเสนอผลงาน นักวิชาการสาธารณสุขน่าจะได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่รู้ลึกซึ้งถึงสภาพพื้นที่ของตนเอง  เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในเขตรับผิดชอบของตนเอง  ต้องสามารถปรับนโยบายสู่การปฏิบัติได้ ไม่ใช่นั่งรอนอนรอให้นักวิชาการจากกระทรวง  จากกรมหรือจากหน่วยงานอื่นๆ เป็นคนสั่งให้ทำโน่นทำนี้อย่างเดียว  

คาดหวังอะไรกับนักวิชาการ สอ.
                ..ได้กำหนดมาตรฐาน โดยแบ่งและแยกหน้าที่ความรับผิดชอบของนักวิชาการสาธารณสุขไว้ ดังนี้

หน้าที่ความรับผิดชอบ

ระดับ

3
4
5
6
7
 1.วิเคราะห์ปัญหาสาธารณสุข
/
/
/
/
/
 2.ประมวลผลปัญหาสาธารณสุข
/
/
/
/
/
 3.วินิจฉัยปัญหาสาธารณสุข
/
/
/
/
/
 4.วางแผนงานสาธารณสุข
/
/
/
/
/
 5.วางระบบข้อมูลข่าวสารสาธารณสุข
/
/
/
/
/
 6.จัดระบบควบคุมกำกับการปฏิบัติงาน
-
/
/
/
/
 7.วิจัยเกี่ยวกับสถานะสุขภาพ
/
/
/
/
/
 8.วิจัยเกี่ยวกับการบริหารสาธารณสุข
/
/
/
/
/
 9.ประเมินผลการดำเนินงานสาธารณสุข
/
/
/
/
/
10.ให้คำปรึกษา  แนะนำด้านวิชาการ
-
/
/
/
/
11.อำนวยการประสานงานดำเนินการ
-
-
/
/
/
12.ฝึกอบรม สอน
-
-
-
/
/
13.ร่วมประชุมกำหนดนโยบายและแผน
-
-
-
/
/
14.กำหนดนโยบายสาธารณสุข
-
-
-
-
/
15.วางมาตรฐานการดำเนินงาน
-
-
-
-
/

จะเห็นว่าในการกำหนดมาตรฐานวิชาการนั้นจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมอย่างน้อย  5  ขั้นตอน คือ
1.วิชาการเป็นเรื่องของการวัด  วัดสิ่งที่ต้องการรู้  ทั้งนี้การวัดต้องแม่นตรง  คือ สามารถวัดสิ่งที่ต้องการวัดได้  และต้องเชื่อถือได้  คือ  วัดกี่ครั้งหรือใช้ใครวัดก็ต้องได้ผลเหมือนกัน
                2.วิชาการเกี่ยวข้องกับการค้นหาสาเหตุและผลภายในปรากฏการณ์และรวมถึงการพิสูจน์ให้เห็นจริงด้วยหลักฐานที่คนธรรมดารับรู้ได้   
                3.องค์ความรู้ที่ได้พิสูจน์แล้ว  จะถูกบันทึกไว้ในรูปรายงานผลการวิจัย  ตำรา  และถูกนำไปศึกษา  ทบทวน  ตรวจสอบหรือแม้กระทั้งท้าทายลบล้างอยู่ตลอดเวลาโดยนักวิชาการรุ่นหลัง
                4.การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริง
                5.การวัดผลสำเร็จและหากไม่สำเร็จต้องค้นหาสาเหตุให้ได้ว่าเป็นเพราะอะไร
                กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้หากทำอย่างเป็นระบบและอย่างมีแบบแผนแล้ว  ก็คือกระบวนการการทำวิจัยนั่นเอง  เพราะฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่าโดยบทบาทและหน้าที่ของนักวิชาการแล้ว  นักวิชาการมีหน้าที่ต้องศึกษาค้นหาปัญหาแต่ละพื้นที่และค้นคว้าหาแนวทางแก้ไข  พร้อมทั้งนำเสนอผลงานหรือองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาในรูปของผลงานวิชาการและงานวิจัยเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นต่อไป

บทบาทที่เห็นและเป็นอยู่
                ที่ผ่านมา จะเห็นว่านักวิชาการสาธารณสุขก็จะมาจากเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนที่มีโอกาส  มีความมานะพยายามใฝ่คว้าหาความรู้จนได้รับวุฒิปริญญาตรีและสอบเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งนักวิชาการนั่นเอง  อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้(บางครั้ง)นักวิชาการสาธารณสุขมักจะลืมบทบาทของนักวิชาการไป แต่ยังคงแสดงบทบาทของเจ้าพนักงานสาธารณสุขเช่นเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบทบาทของนักวิชาการย่อมแตกต่างกันไป ตามแต่โอกาสและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง  ขอยกผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับบทบาทและผลการปฏิบัติงานของนักวิชาการ เพื่อให้เห็นสภาพการปฏิบัติงานของนักวิชาการที่ผ่านมา ดังนี้
                · พรเจริญ  บัวพุ่ม  ศึกษาเรื่อง  ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานกับการปฏิบัติงานตามบทบาทนักวิชาการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสถานีอนามัยเขต 2  จำนวน 290 คน เมื่อปี 2543  พบว่า  นักวิชาการสาธารณสุขมีความพึงพอใจในงานรวมทุกด้านอยู่ในระดับปานกลาง  บทบาทที่นักวิชาการสาธารณสุขส่วนใหญ่ปฏิบัติ ได้แก่  การอำนวยการและประสานการดำเนินงาน  การฝึกอบรมและสอน  การวินิจฉัยปัญหาสาธารณสุข  การวางแผนงานสาธารณสุข  การให้คำปรึกษาทางด้านวิชาการ  การประมวลผลปัญหาสาธารณสุข  ในส่วนบทบาทที่นักวิชาการสาธารณสุขส่วนใหญ่ไม่ได้ปฏิบัติ  คือ  การวิจัยเกี่ยวกับการบริหารสาธารณสุขกับการวิจัยเกี่ยวกับสถานะสุขภาพ
                · พรชัย  เลิศหลาย ศึกษาเรื่อง  การปฏิบัติงานตามบทบาทของนักวิชาการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสอ. เขต 4  จำนวน  198  คน  เมื่อปี 2543  พบว่า  ส่วนใหญ่มีการปฏิบัติงานตามบทบาทในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง  และการปฏิบัติงานตามบทบาทแต่ละด้าน  พบว่า  บทบาทด้านการบริการมากที่สุด  รองลงมาเป็นด้านบริหาร  และที่สำคัญบทบาทที่ปฏิบัติน้อยที่สุดคือบทบาทด้านวิชาการ
                · ไพรัช  สุวรรณเนกข์  ศึกษาเรื่อง  การประเมินการปฏิบัติงานสาธารณสุขของนักวิชาการสาธารณสุขระดับตำบลในเขต 8  จำนวน  141  คน  เมื่อปี 2542  พบว่า  ผลการปฏิบัติงานด้านความครอบคลุมและความครบถ้วนตามกลุ่มงานในหน้าที่ความรับผิดชอบอยูในระดับดีมาก  และเมื่อจำแนกเป็นรายด้านแล้ว  พบว่า  กลุ่มงานด้านที่ส่วนใหญ่ปฏิบัติงานอยู่ในระดับดีมากคือ  การควบคุมกำกับงาน (46.2%)  และด้านการใช้ข้อมูลในการวางแผน (39.4%) และกลุ่มงานด้านที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพอใช้และควรปรับปรุงคือ  การวิจัย (50% และ 32.6%)    ในขณะที่ด้านความครบถ้วนนั้น  ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมากทุกด้าน  ยกเว้นด้านการวิจัยที่ส่วนใหญ่อยู่ระดับพอใช้ (56%) และควรปรับปรุง (32.6%)
                จากผลการวิจัยทั้ง  3  เรื่อง  สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันและอยู่ในข้อเสนอแนะของการวิจัยคือ  นักวิชาการสาธารณสุขควรพัฒนาในเรื่องการทำวิจัย เพื่อพัฒนางานในความรับผิดชอบตามบทบาทของนักวิชาการ  และการจะพัฒนาในเรื่องการทำวิจัยได้นั้น  สสอ. คปสอ. สสจ. ศูนย์วิชาการเขต   วิทยาลัยการสาธารณสุข  วิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชนก และรวมถึงมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคต่างๆ  ควรจะมีบทบาทในส่วนนี้  เพื่อช่วยแนะนำการทำศึกษาวิจัย  รวมทั้งสนับสนุนข้อมูลข่าวสาร งบประมาณ  และเป็นการเรียนรู้ร่วมกันอีกด้วย
                ในปัจจุบันงานวิชาการ งานวิจัยต่างๆ ที่เป็นผลงานของนักวิชาการระดับสถานีอนามัยมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย  และที่มีบ้างก็เป็นเรื่องของการทำผลงานวิชาการเพื่อเลื่อนระดับที่สูงขึ้น  หรือการทำวิทยานิพนธ์เพื่อปริญญาของผู้ที่ลาศึกษาต่อ  ซึ่งไม่ใช่เกิดจากความต้องการค้นหาปัญหา  และหาแนวทางแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่เลย
ปฏิรูประบบสุขภาพ : โอกาสนักวิชาการโชว์ กึ๋น
                ที่ผ่านมางานสาธารณสุขได้มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยี  ขยายโรงพยาบาลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่  สร้างสถานีอนามัยให้ครบทุกตำบล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่เน้นซ่อมสุขภาพ  และผลสุดท้ายกาลเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เดินผิดทาง  ยิ่งสร้างโรงพยาบาล  พัฒนาเทคโนโลยี  ผลิตแพทย์  พยาบาล  มากเท่าไร  จำนวนคนไข้ก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว  เป็นลักษณะที่ว่ายิ่งแก้ปัญหาก็ยิ่งเพิ่มปัญหามากขึ้น  จึงมีการเปลี่ยนมุมมองเรื่องสุขภาพกันใหม่  จากเดิมที่เน้น ซ่อมสุขภาพ มาเป็นการ สร้างสุขภาพ  คือการส่งเสริมสุขภาพ  โดยบุคลากรสาธารณสุข(ทุกสาขา)ต้องปรับบทบาทจาก ซ่อมเป็น สร้าง ถึงเวลาแล้วที่หมออนามัยเราจะแสดงบทบาทที่ควรจะเป็น  นักวิชาการที่ปฏิบัติงานในสถานีอนามัยก็เช่นกัน  ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำหน้าที่นักวิชาการสาธารณสุขผู้ซึ่งจะต้องอาศัยความรู้  ความชำนาญ  ความคิดความอ่าน  และเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงในการดำเนินงานด้านสุขภาพของประชาชนในเขตรับผิดชอบของตนต่อไป

สรุป
                งานวิชาการไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใกล้เกินตัวหมออนามัยเรา ไม่ใช่เรื่องยากเย็นแสนเข็ญอย่างที่หลายคนเข้าใจ  เป็นเรื่องใกล้ตัวเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ขอย้ำว่างานวิชาการ คือ  การสืบค้นข้อมูลอย่างเป็นระบบ หรือ การค้นหาข้อมูลใหม่ ความรู้ใหม่ เพื่อนำมาใช้ตัดสินใจสำหรับการทำงานในแต่ละสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ให้ดียิ่งขึ้น โดย ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรทางสถิติที่ลึกลับซับซ้อนเสมอไปและ ทำได้กับทุกงาน ทุกแห่ง ทุกที่ จริงๆ แล้วหมออนามัยเราต้องฝึกทำงานวิชาการกันทุกคน มิใช่เป็นหน้าที่ของนักวิชาการเพียงคนเดียวเท่านั้น  และถึงเวลาหรือยังที่เราต้องทบทวนกับบทบาทที่เป็นอยู่ !

เอกสารอ้างอิง
ไพรัช  สุวรรณเนกข์. (2542). การประเมินการปฏิบัติงานสาธารณสุขของนักวิชาการสาธารณสุขระดับตำบลในเขต 8. 
วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(สาธารณสุขศาสตร์)  สาขาวิชาเอกบริหารสาธารณสุข  บัณฑิตวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยมหิดล.
พรเจริญ  บัวพุ่ม. (2543).  ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานกับการปฏิบัติงานตามบทบาทนักวิชาการสาธารณ
สุขที่ปฏิบัติงานในสถานีอนามัย เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(สาธารณสุขศาสตร์)  สาขาวิชาเอกบริหารสาธารณสุข  บัณฑิตวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยมหิดล.
พรชัย  เลิศหลาย. (2543).  การปฏิบัติงานตามบทบาทของนักวิชาการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสถานีอนามัย เขต 4.
วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(สาธารณสุขศาสตร์)  สาขาวิชาเอกบริหารสาธารณสุข  บัณฑิตวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยมหิดล.
อรรณพ  พงษ์วาทและสมโชค  อ่องสกุล ,บรรณาธิการ. (2532).  การพัฒนาการอาจารย์ในบทบาทนักวิชาการ : รวมบทความว่าด้วยความเป็น
นักวิชาการ.  คณะศึกษาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วารสารหมออนามัย ปีที่ 5 ฉบับ 3 (พฤศจิกายน ธันวาคม 2538) . หมออนามัยกับการทำผลงานวิชาการ(ขึ้น ว), หน้า 9-14.
วารสารหมออนามัย ปีที่ 7 ฉบับ 2 (กันยายน ตุลาคม 2540) . ทุกขลาภของนักวิชาการรุ่นใหม่, หน้า  57-64.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Popular Posts

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

 
Copyright © 2011 toncub | High CTR Blogspot Themes designed by Ali Munandar | Powered by Blogger.Com.
My Zimbio