ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ความหมายของระบบบริการปฐมภูมิ


1.      ความหมายของระบบบริการปฐมภูมิ (Primary Care)
ในที่นี้ขอสรุปความหมายของ Primary Care ว่าเป็นความหมายที่รวมทั้ง Primary Medical และ Primary Health Care  ดังนั้น Primary Care จึงหมายถึง การให้บริการสาธารณสุขด่านแรกที่เน้นการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน จนเป็นสื่อในการนำความรู้และนำบริการสุขภาพที่มีคุณภาพไปสู่ประชาชน
Primary Care จึงมีองค์ประกอบที่สำคัญอย่างน้อย 3 ประการ  คือ
(1)   ความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน (Community relationship) เป็นการบ่งบอกว่า การดูแลสุขภาพระดับปฐมภูมิไม่ใช่การดูแลเฉพาะโรคแต่ต้องดูแลบุคคล ครอบครัว และชุมชน  มีความรู้จักและเข้าใจกันระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เกิดการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ
(2)   สร้างความรู้ให้กับประชาชน (Empowerment) การบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิมุ่งหวังให้ประชาชนพึ่งตนเอง และสามารถดูแลตนเองไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค
(3)   บริการที่มีคุณภาพ (Quality of Care) บริการที่มีคุณภาพมี 2 มิติ คือ ด้านวิชาการทางการแพทย์ คือ รักษาถูกโรค ถูกคน ถูกเวลา ทำให้ผู้ป่วยหายป่วยจากโรค  อีกมิติ คือ มิติทางสังคม  ซึ่งหมายถึงองค์ประกอบหลัก 3 ประการ คือ
1)      Continuity  ความต่อเนื่องของการให้บริการ  ทั้งขณะป่วยและขณะปกติ      ดูแลตลอดชีวิตประชาชน
2)      Integrated ผสมผสานเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว หมายถึง การบริการที่มีการผสมผสานทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และ         การฟื้นฟูสภาพ 
3)      Holistic องค์รวม คือ ดูแลคนทั้งคน ไม่ใช่เฉพาะโรค มีการนำมิติทางกาย จิต สังคม สิ่งแวดล้อมมาเชื่อมโยงการดูแล
จากความหมาย และองค์ประกอบของ Primary Care ดังกล่าวข้างต้น  ศาสตร์ที่น่าจะนำมาใช้ในการดูแลผู้ป่วยหรือประชาชนในระบบริการปฐมภูมิ คือ ศาสตร์ของเวชศาสตร์ครอบครัว
2.      หลักการของเวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine)
สำนักตรวจราชการเขต 3 ได้ให้หลักการของเวชศาสตร์ครอบครัวไว้สั้นๆว่า รู้จักและเข้าใจกัน สร้างสรรค์สุขภาพชุมชน เพิ่มผลคุณภาพการรักษา  นั้นหมายความว่า                    ผู้ให้บริการตามหลักการของเวชศาสตร์ครอบครัวจะต้องรู้จักและเข้าใจประชาชนในเขตรับผิดชอบ รู้จักครอบครัว  รู้จักชุมชนเป็นอย่างดี ไม่ใช่มารู้จักเฉพาะในห้องตรวจโรค                การให้บริการในลักษณะนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของผู้ให้กับผู้รับบริการเสมือนญาติมิตร ย่อมทำให้เกิดความอบอุ่นทางด้านจิตใจของประชาชนเป็นอย่างมาก
สร้างสรรค์สุขภาพชุมชน  เป็นนัยบอกว่า การดูแลสุขภาพของคนและครอบครัวนั้น ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชน การป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพจะทำได้ดีจะต้องมองภาพทั้งชุมชนด้วย
เพิ่มผลคุณภาพการรักษา เมื่อทำองค์ประกอบ 2 อย่างแรกได้ดี ย่อมส่งผลให้การรักษาของผู้ป่วยได้รับผลดี คือ หายป่วยหรือไม่มีภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งไม่เกิดการป่วยซ้ำซ้อน
การเข้าใจหลักการของเวชศาสตร์ครอบครัว ย่อมส่งผลต่อรูปแบบของการให้บริการเปรียบเสมือนคำพูดที่ว่า ทฤษฎีชี้นำการปฏิบัติ  ผู้ที่อยู่ในวงการแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว          ได้เสนอหลักการเพื่อให้ผู้ให้บริการยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ 10 ข้อ (10 Core Principle) ดังนี้     
(1)   การให้บริการเวชศาสตร์ครอบครัวเป็นพันธะผูกพันระหว่างผู้ให้บริการกับบุคคลมากกว่ากับโรคหรือเทคโนโลยี (Person –centeredness)
(2)   ต้องมีความเข้าใจบริบทของความเจ็บป่วย
(3)   การให้บริการทุกครั้งถือเป็นโอกาสของการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับผู้ป่วย
(4)   ต้องคำนึงถึงประชาชนรอบข้างผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเสมอ
(5)   มองประชาชนเป็นเครือข่ายในการดูแลสุขภาพของตนเองจะได้เข้าใจบริบทของชุมชน
(6)   ผู้ให้บริการควรอยู่ในชุมชนที่รับผิดชอบ
(7)   ดูแลผู้ป่วยทั้งในสถานบริการ  และนอกสถานบริการ ได้แก่ ที่บ้าน และในชุมชน
(8)   คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนต่อความเจ็บป่วย
(9)   เป็นผู้จัดการทรัพยากรสาธารณสุขและนักประสานงาน
(10)     บุคลากรเวชศาสตร์ครอบครัวต้องใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต
หลักการ 10 ข้อนี้ไม่แตกต่างจากหลักการที่ทางสำนักตรวจราชการสาธารณสุขเขต 3 กำหนดไว้ เพียงแต่แตกประเด็นให้เป็นข้อย่อยมากขึ้น
ขอบเขตของการให้บริการแบบเวชศาสตร์ครอบครัวจะต้องครอบคลุมทั้งเชิงรับและเชิงรุก ซึ่งจะเกิดขึ้นได้  ผู้ให้บริการจะต้องคำนึงถึงรูปแบบการให้บริการที่ประกอบด้วย การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Acute)   การเข้าใจภูมิหลังของผู้รับบริการ (Psychosocial) การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (Promotion & Prevention) และความต่อเนื่อง (Continuity)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Popular Posts

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

 
Copyright © 2011 toncub | High CTR Blogspot Themes designed by Ali Munandar | Powered by Blogger.Com.
My Zimbio