ภาวะที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัวทั้งหน่วยงานของรัฐและองค์กรประชาชน        ให้สามารถดำเนินงานและดำรงชีวิต ได้ด้วยความราบรื่นและไร้ทุกข์ให้ได้มากที่สุด        ดังนั้นในสถานการณ์เช่นทุกวันนี้ จึงมีผลต่อการปรับโฉมหน้าของงานสาธารณสุขมูลฐาน        ทั้งในการปรับขยายแนวคิดและวิธีทำงานให้เหมาะกับยุคสมัยและสถานการณ์ของประเทศ        ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ด้วยการจัดระบบการจัดการของชุมชน        ในสิ่งที่มีอยู่ในชุมชน ซึ่งเป็นผลพวงของการพัฒนางานสาธารณสุขมูลฐานให้เกื้อกูลกัน        เกิดประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ อันได้แก่ ความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน (อสม.        ผู้นำ กลุ่มต่างๆ และประชาชน) ศูนย์ปฏิบัติการให้บริการสุขภาพเบื้องต้นและความรู้ข่าวสารด้านสุขภาพในชุมชน        และทุนในการดำเนินกิจกรรมสุขภาพในชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอจากภาคี อสม.        ถึงการจัดการของชุมชนในการพัฒนาสุขภาพที่จะต้องประกอบด้วยการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง        กรรมการสุขภาพหรือทีมสุขภาพ ศูนย์ปฏิบัติการด้านสุขภาพและกองทุนสุขภาพในชุมชนหรือ        ศสมช. โดยเรียกการจัดการของชุมชนในการพัฒนาสุขภาพนี้ว่า ระบบสุขภาพภาคประชาชน
    ..........        ระบบสุขภาพภาคประชาชนเป็นคำที่มีความหมายรวบยอดของงานสาธารณสุขมูลฐานอย่างเป็นระบบ        เป็นกระบวนการของการดำเนินงานที่มิใช่กิจกรรมเดี่ยวๆ ของชุมชน มิใช่ภารกิจของหน่วยงานหรือองค์กร
    ภายนอกที่จะต้องกำหนดหรือออกแบบกิจกรรมดำเนินงานให้ชุมชน จึงเป็นเรื่องของชุมชนที่จะคิด        จะตั้งเป้าหมาย บริหารจัดการ และวัดผลสำเร็จด้วยตนเอง หน่วยงานหรือองค์กรภายนอกสามารถทำได้เพียงการร่วมมือกันอย่างจริงจัง        และต่อเนื่องในการส่งเสริมสนับสนุนหรือสร้างกลไกปัจจัยที่เกื้อหนุนการจัดการด้านสุขภาพของชุมชน
    ..........         ระบบสุขภาพภาคประชาชน มีจุดมุ่งหมาย เพื่อการพัฒนาสุขภาพของคนในชุมชน  ด้วยการส่งเสริมผลักดันให้ประชาชนตระหนักในการดูแลสุขภาพ        และถือเป็นหน้าที่ของตนเอง มิใช่ผลักภาระให้กับคนอื่น และพัฒนาองค์กร  อาสาสมัครและแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว         มีส่วนร่วมได้พัฒนาขีดความสามารถและทักษะในการจัดการงานบริการส่งเสริม สุขภาพด้านต่างๆ        ของ กรม กอง ในกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถเป็นระบบ  และเกิดผลที่ประจักษ์ชัด         สามารถตรวจวัดได้ในระดับชุมชนนั้นเป็นสิ่งที่ต้องมุ่งมั่นดำเนินการให้ สำเร็จ        ตลอดจนการสร้างกระแสผลักดันให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ  ได้หันมามีบทบาทส่วนร่วมรับผิดชอบการดูแลชีวิตและสุขภาพพื้นฐานได้โดยตนเอง ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพของคนไทย        ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ประการ คือ
    ..........        คน        เป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในการพัฒนาใดๆ ก็ตามจะต้องมีคนที่อยู่ในชุมชนรวมตัวกัน        ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ อาจเริ่มจากคนกลุ่มหนึ่งอาจจะมากหรือน้อยก็ตามซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายต่างกลุ่ม        ต่างอาชีพ ต่างฐานะ ต่างความคิด ต่างเพศ ต่างวัย แต่มีจิตใจเดียวกันเพื่อส่วนรวม        และมีเป้าหมายร่วมกัน มีการขยายแนวร่วมออกไปเรื่อยๆ
    ..........        องค์ความรู้        ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ        ของชุมชน จำเป็นต้องมี องค์ความรู้ วิธีการ เทคโนโลยี ภูมิปัญญาและประสบการณ์        จะทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ การถ่ายทอดและการกระจายความรู้ข้อมูลข่าวสารในชุมชน
    ..........        ทุน         เพื่อการพัฒนาสุขภาพ การดำเนินงานพัฒนาสุขภาพ  จำเป็นต้องอาศัยทุนที่เป็นตัวเงิน        และทุนที่ไม่ใช่ตัวเงินหรือทุนทางสังคมและทรัพยากรธรรมชาติ  ซึ่งทุนที่เป็นตัวเงินจะมีความหมายในลักษณะการเงินการคลังด้านสุขภาพและการ พัฒนาด้านต่างๆ        เพื่อจัดบริการให้กับคนในชุมชนอย่างคุ้มค่า  คุ้มเวลาที่ทำงานและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด        ซึ่งแต่ละชุมชน สามารถแสวงหาแหล่งทุนได้ทั้งภายในและภายนอกชุมชน  และนำมาบริหาร        จัดการให้เกิดผลกำไร แล้วนำดอกผลนั้นมาใช้ในการพัฒนาต่อไป
         นอกจากองค์ประกอบหลัก 3 ประการแล้ว หัวใจสำคัญของระบบสุขภาพภาคประชาชน คือ        การจัดการ เพื่อให้ประชาชนมีความสามารถในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง        ซึ่งการจัดการในที่นี้ คือ การปฏิบัติการประสานให้เกิดความสมดุลย์ เพื่อการเคลื่อนไหวของปัจจัย        คน องค์ความรู้หรือวิธีการทำงาน และทุนเพื่อการพัฒนาสุขภาพ ให้เกิดการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาสุขภาพ        เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของคนในชุมชน ป้องกันและแก้ปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน        ทั้งนี้กิจกรรมการพัฒนาสุขภาพที่ดำเนินโดยชุมชนนั้นขึ้นกับการตัดสินใจของชุมชนว่าจะดำเนินการในเรื่องใด        อย่างไร ซึ่งสามารถแสดงเป็นแผนภาพเชิงแนวคิดองค์ประกอบระบบสุขภาพภาคประชาชน
Microsoft Sans Serif;font-size:130%;">ะบบสุขภาพภาคประชาชนวัฒนธรรมการดูแลความสุขสมบูรณ์ทางสุขภาพกายและใจของตนเอง        สมาชิกในครอบครัวและในสังคมของตนเอง           
 ระบบสุขภาพภาคประชาชนจะเป็นระบบการดูแลสุขภาพด้วยหัวใจไม่ทำด้วยสมองเพียงอย่างเดียว        เพราะคนในท้องถิ่นรู้ภูมิประเทศ รู้จักผู้คน วัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น มีหัวใจพิเศษด้วยรู้สึกว่าคนในชุมชนเป็นลูกหลาน        เป็นมิตรสหาย ซึ่งแตกต่างจากระบบรัฐที่หมอและพยาบาลไม่ได้เป็นผู้ประสบปัญหาด้วยตนเอง        ไม่ได้ตระหนักถึงความเจ็บป่วย และความวิตกกังวลที่มีอยู่ ระบบสุขภาพภาคประชาชน        จะช่วยให้การเข้าถึงบริการในมิติด้านสังคมของประชาชนที่นอกเหนือไปจาก การเข้าถึงบริการที่รัฐมอบให้ในการสร้างหลักประกันสุขภาพ
           ดังนั้นระบบสุขภาพภาคประชาชน จะทำให้เกิดการพึ่งตนเองของประชาชน ซึ่งการพึ่งตนเองจะเป็นตัวหล่อหลอมให้ประชาชนเข้มแข็ง        ลดการพึ่งรัฐ และลดการร้องขอจากรัฐ จึงเป็นระบบที่จะเติมเต็มระบบสุขภาพ
    ของชาติ เพราะเป็นกลไก การเชื่อมต่อระหว่างกลไกภาครัฐกับภาคประชาชน ที่จะให้บรรลุผลการมีสุขภาพดี        และลดค่าใช้จ่ายในระบบสุขภาพของประเทศลดลง
สุขภาพภาคประชาชนไม่ใช่เรื่องการเจ็บป่วยแต่เป็นการบำรุงความสุขในชีวิต           
สุขภาพภาคประชาชนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่เป็นการ  เพิ่มโอกาสให้บุคคลสามารถจะตรวจวัดสุขภาพด้านใดๆ         ก็ได้ในชุมชนเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันสิ่งที่จะเป็นพิษเป็นภัยต่อสุขภาพ  สุขภาพภาคประชาชนไม่ใช่เรื่องของการเจ็บป่วย        แต่เป็นการบำรุงความสุขในชีวิต ในภาพของพื้นที่  นโยบายสร้างเสริมสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขและนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วน หน้า        ทำให้โรงพยาบาลและสถานีอนามัย  ต้องพิจารณาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพให้เข้ม ข้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่เน้นการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยด้วย การใช้จ่ายที่ไม่จำกัด        เมื่อเป็นเช่นนี้แนวทางสู่การบรรลุผลสำเร็จ  จึงจำเป็นต้องอาศัยการสร้างกระแส        และการสร้างแรงผลักดันทั้งทางสังคมและการเมือง  ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจและทัศนคติของประชาชน        ตลอดจนองค์กรผู้นำท้องถิ่นให้ยอมรับว่า การดูแลสุขภาพโดยตนเองขั้นพื้นฐานนั้นเป็น        หน้าที่สำคัญของบุคคล ครอบครัวและชุมชน        แต่ก็อาจที่จะต้องพึ่งพาระบบการบริการของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญบ้างเมื่อคราวจำเป็น        และการไม่เจ็บป่วย หรือการช่วยตนเองได้ให้พ้นจากการเจ็บป่วย นับว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อค่าใช้จ่าย        ต่อโอกาสในการประกอบอาชีพสร้างรายได้และต่อความสุขของคนในครอบครัวที่ไม่มีใครป่วย        ใครพิการหรือใครสูญเสียชีวิต แม้ว่ารัฐจะให้บริการ 30 บาท รักษาทุกโรค ก็ตาม        แต่ค่าใช้จ่ายจริงย่อมสูงกว่านั้นแน่นอน ซึ่งรัฐจะเป็นผู้รับใช้ส่วนที่เหลือให้อยู่ได้        อันเป็นการช่วยเหลือประชาชน แต่หากพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าเงินที่รัฐจะนำมาจ่ายชดเชย        ก็เป็นเงินจากภาษีราษฎรอยู่ดี ดังนั้นการป่วยที่ป้องกันได้ของใครคนหนึ่งในสังคม        ที่ไปรับการรักษาสามสิบบาท ก็คือ ผู้สร้างภาระให้เพื่อนผู้อื่นในสังคมเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบส่วนที่เกินโดยไม่เป็นธรรม        ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะถือว่า ภาระการดูแลส่งเสริมสุขภาพจากนักวิชาการแพทย์และสาธารณสุขสามารถมอบกลับไปสู่ประชาชนได้        และให้เขาสามารถบริหารจัดการในขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพและมาตรฐานด้วยตนเอง
สุขภาพภาคประชาชน        การประสานพันธกิจราษฎร์ รัฐและเอกชน            การก้าวเดินไปสู่อนาคตแบบองค์รวมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต เพื่อให้ เกิดระบบสุขภาพภาคประชาชนนี้        ไม่ใช่งานที่จะสามารถบรรลุได้ด้วยองค์กรชุมชน องค์กร อสม.หรือสำนักงานคณะกรรมการการสาธารณสุขมูลฐานเพียงฝ่ายเดียว        พันธกิจทั้งหลายเพื่อสร้างผลบรรลุนี้ต้องอาศัยเพื่อน        อาศัยพี่น้อง จากทุกหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข        ทุกระดับ หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ องค์กรเอกชน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น        การร่วมประสานพันธกิจของกรมกองต่างๆ  ที่จะผลักดันให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรอาสาสมัคร        และขีดความสามารถขององค์กรผู้นำท้องถิ่น ในระบบสุขภาพภาคประชาชน  น่าจะเป็นโอกาสอันดีและทันเหตุการณ์ที่จะทำให้การส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้าน สุขภาพของประชาชน        วิวัฒนาการไปสู่สภาพที่พึงประสงค์ คือ  การดูแลสุขภาพโดยประชาชนของชุมชน นอกจากนี้        การมีอาสาสมัครสาธารณสุขและแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว  ดำเนินการบริการส่งเสริมสุขภาพ        และการดำรงชีวิต โดยมีศูนย์ปฏิบัติการหรือสาขาในระดับชุมชน  จะช่วยลดภาระและเพิ่มศักยภาพด้านการสร้างเสริมสุขภาพและการบรรลุเป้าหมายที่ มีประสิทธิภาพอย่างคุ้มค่า        สำหรับประชาชน  กระทรวงสาธารณสุขและภาษีราษฎรของชาติในที่สุดของการส่งเสริมสุขภาพ        ในระบบสร้างเสริมสุขภาพแบบศูนย์สุขภาพชุมชน (PCU)  ของการประกันสุขภาพถ้วนหน้า        ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราทำปณิธานนี้สำเร็จ  จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างเสริมสุขภาพและเป็นการร่วมสร้างเป้าหมาย หลักของนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขให้บรรลุผล        ลดการเจ็บป่วย ช่วยรัฐประหยัด ลดการเจ็บป่วย ช่วยชาติเจริญ
  
คลังบทความของบล็อก
- พฤษภาคม (1)
- มีนาคม (3)
- มกราคม (1)
- มิถุนายน (1)
- เมษายน (2)
- พฤศจิกายน (1)
- สิงหาคม (2)
- พฤษภาคม (1)
- เมษายน (1)
- พฤศจิกายน (2)
- มีนาคม (1)
- กรกฎาคม (1)
- มิถุนายน (1)
- พฤษภาคม (2)
- เมษายน (4)
- มีนาคม (7)
- กุมภาพันธ์ (3)
- มกราคม (8)
- ธันวาคม (3)
- พฤศจิกายน (9)
- ตุลาคม (1)
- กันยายน (9)
- สิงหาคม (32)
- กรกฎาคม (42)
- มิถุนายน (41)
- พฤษภาคม (3)
- เมษายน (5)
- มีนาคม (3)
- กุมภาพันธ์ (13)
- มกราคม (8)
- ธันวาคม (7)
- พฤศจิกายน (10)
- ตุลาคม (4)
- กรกฎาคม (2)
- มิถุนายน (10)
Popular Posts
- 
ตัวอย่างการแบ่งงานใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนะครับ มีทั้งหน้าที่ของนักวิชาการสาธารณสุข หน้าที่ของพยาบาลวิชาชีพ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุ...
- 
เนื่องด้วยบุญพา บารมีเสริม ทำให้ผมได้มีโอกาศไปนั่งรับฟังนโยบายการดำเนินงานงานปฐมภูมิ ถึงแม้ว่าผมไม่ได้รับฟังจากปากท่านผู้ตรวจราชการ ท...
- 
ยายี่ห้อ zithromax มีตัวยา AZITHROMYCIN ส่วนใหญ่แพทย์เฉพาะทางจะจ่ายยาตัวนี้เพราะไม่ต้องกินมากและหายเร็ว แต่ตามโรงพยาบาลหรือร้านยาจะไม่จ่...
- 
1. ข้อความใดต่อไปนี้ทุกข้อเป็นความจริงเกี่ยวกับหลักระบาดวิทยา ยกเว้นข้อใด ก. เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการกระจายของโรคและหาความสัมพันธ์สิ่งที...
- 
เมื่อวันเสาร์กับอาทิตย์ที่แล้วไปสอบแพทย์รังสิตมา (ชื่อว่าสอบแพทย์ แต่จริงๆแล้วเลือกไว้ 2 อันดับ คือ 1.แพทย์ 2.เภสัช) วันแรก ข้อสอบง่าย...
 
 
 
 
 
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น