ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยอยากได้ iPad 3 เลยครับ ดังนั้นผมจึงไม่มีข้อมูลiPad 3 เลย (จริงiPad รุ่นไหนผมก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ) ผมคิดว่า iPad 3 จะช่วยในการจดแนวความคิดแบบว่าผมพกiPad 3ไปเครื่องเดียวเหมือนพกหนังสือ + สมุดจดงานได้เลย ผมว่ามัน(iPad 3) ค่อนข้างดีมากๆกับคสขี้ลืมอย่างผม
iPad 3 เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2555 ครับ ตอนนั้นผมได้ยินหัวหน้าผม เพื่อนผมพูดเรื่อง การเปิดตัวของiPad 3 แต่ผมไม่ได้สนใจ แถมหัวเราะดังเหอะๆๆในลำคอ ประมาณว่า iPad 3 ไม่ได้เงินผมหรอก
ผมของพูดถึงเรื่องการนำiPad 3มาขายในไทยก่อนนะครับ คือจะขายiPad 3 ในไทยได้ต้องขออนุมัติจาก กสทช. สาเหตุก็เพราะ iPad 3 เป็นเครื่องที่เชื่อมต่อ WI-fi ได้ครับ กระบวนการขออนุมัติก็อย่ที่ประมาณ 20-30 วันครับ
เห็นหรือยังครับว่า iPad 3 ผมยุ่งยากต้องแต่เริ่มต้นแล้วครับ ดังนั้นถ้าได้ซื้อ iPad 3 มาใช้มันจะเยี่ยมมากๆๆ แบบว่าโครตเท่เลย
ผมลองหาข้อมูลของ iPad 3 และ iPad2 ปรากฏว่ารูปร่างหน้าตาของ iPad 3 และ iPad 2 มีความคล้ายกันมากๆๆ โคตรคล้ายเลยครับ ยังกับว่า iPad 3 กับ iPad2 เป็นตัวเดียวกันเลยครับ
แล้ว iPad 3 มัน ต่าง จาก iPad 2 อย่างไรละครับ นั้นละปัญหาที่ผมสงสัย
จากข้อมูลที่หาได้พบว่า iPad 3 ภาพจะคมชัดกว่า iPad2 ครับ (บางคนก็บอกว่าiPad2 ภาพก็ชัดพอแล้ว) สาเหตุที่iPad 3 ภาพชัดกว่าiPad2 ก็เพราะว่า iPad 3 ได้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Retina Display
เจ้าRetina Display นี้ละครับที่ผมให้จอภาพของ iPad 3 ชัดเจน โดดเด่น น่าจับจองกว่า iPad 2
และเจ้า Retina Display นี้ละครับเป็นจุดแข็งของ iPad 3
จุดเด่นที่ข้อขอ iPad 3 คือ ชิป Apple A5X ซึ่งเป็นชิพเซ็ทแบบ Dual-core Processor ที่ใช้ได้ดีกับระบบ Retina Displayที่iPad 2 ไม่มีครับ
วันนี้ขอพูดเรื่อง Retina Displayและ ชิป Apple A5X ของ iPad 3 เพียงเท่านี้ก่อนครับ ใครสนใจเพิ่มเดิมก็ลองๆหาในเน็ตดูนะครับ
1 ความคิดเห็น:
หลายท่านอ่านแล้วคงสงสัยว่า มันเกี่ยวกับงานชุมชนตรงไหน แฮะๆๆไว้คราวหน้าจะเขียนว่าผมประยุกต์ใช้กับงานชุมชนอย่างไรนะครับ
แสดงความคิดเห็น